การจัดแข่งขันวิ่งมีกี่ประเภท

การจัดแข่งขันวิ่งมีกี่ประเภท

หนึ่งในปัญหาสำคัญของนักวิ่งมือใหม่หลายๆคน ที่ต้องการเข้าร่วม งานแข่งวิ่งมาราธอน นั่นก็คือ ความสับสนและความไม่เข้าใจเกี่ยวกับประเภทต่างๆในงานแข่งขันวิ่งที่มีอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น วิ่งมาราธอนแบบMini, แบบHalf รวมไปถึงวิ่งแบบ Full จนนำไปสู่ความข้องใจและความสงสัยที่ว่า แต่ที่จริงแล้ว ตนเองนั้นเหมาะกับงานแข่งขันการวิ่งในรูปแบบไหนกันแน่ ทั้งนี้สำหรับนักวิ่งมือใหม่คนใดที่กำลังประสบปัญหาเรื่องข้อข้องใจดังกล่าวอยู่เช่นเดียวกัน ในวันนี้เราจะพาทุกท่านไปหาคำตอบด้วยกันว่า แท้ที่จริงแล้ว การจัดแข่งขันวิ่ง มีกี่ประเภท

การจัดแข่งขันวิ่ง มีกี่ประเภท? สำหรับระยะทางไม่เกิน 10 กิโลเมตร

สำหรับมือใหม่ทั้งหลายที่อยากรู้ว่าการจัดงานวิ่งมาราธอนในรูปแบบระยะสั้นนั้น การจัดแข่งขันวิ่ง มีกี่ประเภท คำตอบคือ 2 ประเภทดังนี้

รูปแบบการวิ่งมาราธอนแบบ Fun Run หรือ Micro มาราธอน

การจัดงานวิ่งมาราธอนในรูปแบบนี้มักมีระยะทางรวมไม่เกิน 5 กิโลเมตร ซึ่งถือได้ว่าเป็นรูปแบบการวิ่งมาราธอนที่สั้นที่สุดจากทั้งหมดที่มี เหมาะสำหรับนักวิ่งมือใหม่ใช้เป็นสนามแรกในการลงแข่งขันเพื่อทดสอบขีดจำกัดและความแข็งแรงของร่างกายที่เกิดจากการฝึกซ้อมวิ่งมาอย่างสม่ำเสมอ โดยหากผ่านด่านการวิ่งรูปแบบนี้ไปได้ก็ถือว่าสามารถก้าวไปสู่การแข่งขันที่ ยากกว่านี้ได้อย่างแน่นอน

การวิ่งในรูปแบบมินิมาราธอน (Mini Marathon)

สำหรับรูปแบบการวิ่งมินิมาราธอนนั้น คือการวิ่งด้วยระยะทาง 10.5 กิโลเมตร ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์และเคยผ่านการวิ่งในรูปแบบ Fun Run หรือ Micro มาราธอน มาแล้ว

การจัดแข่งขันวิ่ง มีกี่ประเภท? สำหรับระยะทางแบบการวิ่งมาราธอนทั่วไป

สำหรับนักวิ่งที่เริมมีประสบการณ์ และอยากเปิดประสบการณ การวิ่งมาราธอนเต็มรูปแบบนั้น การจัดแข่งขันวิ่ง มีกี่ประเภท คำตอบคือ 3 ประเภท ได้แก่

การวิ่งในรูปแบบ half Marathon

การ วิ่งมาราธอนแบบ half Marathon คือการวิ่งด้วยระยะทาง 21 กิโลเมตร ซึ่งจากระยะทางดังกล่าวนั้นถือได้ว่าเป็นปริมาณที่มากพอสมควร จึงเหมาะสำหรับนักวิ่งมาราธอนที่ฝึกฝนร่างกายอย่างสม่ำเสมอ และเตรียมความพร้อมมาเป็นอย่างดี อีกทั้งยังควรมีประสบการณ์จากงานวิ่งมาราธอนใน 2 รูปแบบก่อนหน้ามาแล้วโดยไม่มีปัญหา

การวิ่งในรูปแบบวิ่งมาราธอนหรือ Full marathon

การวิ่งมาราธอนรูปแบบนี้จะต้องวิ่งด้วยระยะทางที่สูงถึง 42.195 กิโลเมตร โดยว่ากันว่าได้เข้าร่วมแข่งขันวิ่งมาราธอนในรูปแบบดังกล่าวนี้ ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางของนักวิ่งหลายๆคนเลยทีเดียว การวิ่งในรูปแบบ Full marathon นี้จำเป็นต้องอาศัยความแข็งแรง และความอดทนเป็นอย่างมากจึงเหมาะสำหรับนักวิ่งมาราธอนที่มีประสบการณ์และผ่านการเข้าร่วมแข่งขันรูปแบบวิ่งต่างๆมาด้วยระยะเวลาและจำนวนที่มากพอสมควรแล้ว

รูปแบบการวิ่งแบบ Ultra มาราธอน

Ultra มาราธอนนั้นจะวิ่งกันด้วยระยะทางที่ไม่น้อยกว่า 42.195 กิโลเมตร โดยอาจเพิ่มเข้าไปจนสูงถึงระยะทาง 100 กิโลเมตรเลยทีเดียว ดังนั้นการวิ่งมาราธอนในรูปแบบนี้จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ฝึกซ้อมวิ่งมายังยาวนานและมีประสบการณ์รวมถึงแก้ไขปัญหาต่างๆเฉพาะหน้าได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังต้องมีความอดทน ต่ออุปสรรคต่างๆได้เป็นอย่างดี รวมถึงต้องมีความพร้อมทั้งด้านร่างกายและจิตใจที่แข็งแกร่งอีกด้วย

การจัดแข่งขันวิ่งมีกี่ประเภท? สำหรับการวิ่งมาราธอนวิบากและอื่นๆ

สำหรับนักวิ่งมืออาชีพ ที่อยากเปิดประสบการณืใหม่ และมาองหาการวิ่งมาราธอนที่ท้าทายความสามารถ และขีดจำกัดให้มากขึ้นนั้น หากอยากรู้ว่า การจัดแข่งขันวิ่งมีกี่ประเภท สำหรับการวิ่งมาราธอนวิบากและอื่นๆ คำตอบคือมี 5 ประเภท ได้แก่

การวิ่งในรูปแบบ City Run

การวิ่งมาราธอนในรูปแบบนี้คือการวิ่งแบบสบายๆไปตามเส้นทางต่างๆที่อยู่ ในแต่ละเมือง เหมาะสำหรับนักวิ่งทุกคนที่ต้องการมองหาบรรยากาศในการวิ่งแบบใหม่ๆไม่ซ้ำซากจำเจเหมือนการวิ่งภายในสนามหรือลู่วิ่งแบบเดิมๆนั่นเอง

การวิ่งในรูปแบบ Cross Country

Cross Country คือการวิ่งมาราธอนในรูปแบบเส้นทาง วิบาก ซึ่งอาจใช้ระยะทางในการวิ่งรวมทั้งหมดตั้งแต่ 4 – 12 กิโลเมตร เพียงแต่ในระหว่างเส้นทางการวิ่งนั้นนักวิ่งจำเป็นจะต้องผจญภัยกับสิ่งต่างๆที่พบเจอระหว่างทาง ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งขึ้นภูเขา การวิ่งข้ามลำธาร การวิ่งลงเนิน หรือการข้ามสิ่งกีดขวางต่างๆ ซึ่งเหมาะสำหรับนักวิ่งที่กำลังมองหางานวิ่งมาราธอน ที่มีรูปแบบการวิ่งแบบใกล้ชิดธรรมชาติและชื่นชอบการผจญภัย

รูปแบบการวิ่งแบบTrail Running

สำหรับการวิ่งมาราธอนในรูปแบบนี้จะมีความคล้ายคลึง กับการวิ่งรูปแบบ Cross Country เป็นอย่างมาก เพียงแต่ว่าการวิ่งในรูปแบบ Trail Running นั้น จะมุ่งเน้นไปที่เส้นทางลักษณะขึ้นเขาลงเขามากกว่า ดังนั้นผู้ที่จะเข้าร่วมงานวิ่งมาราธอนในรูปแบบTrail Running ผู้วิ่งจึงไม่ควรแต่จะมีทักษะการวิ่งที่ชำนาญเท่านั้น แต่ต้อง มีทักษะในการปีนเขา รวมถึงสามารถพกพาอุปกรณ์ต่างๆติดตัวไปด้วยในขณะวิ่งทุกครั้ง อีกด้วย

การวิ่งในรูปแบบ Spartan

สำหรับการวิ่งรูปแบบ Spartan นั้น คือการวิ่งฝ่าด่านวิบากต่างๆที่ถูกจัดเตรียมขึ้นโดยผู้จัดการแข่งขัน ซึ่งคล้ายกับลักษณะการผจญภัยฝ่าด่านต่างๆ ในขณะที่เข้าค่ายลูกเสือนั่นเอง

การวิ่งแบบไตรกีฬา (Triathlon)

เป็นการวิ่งมาราธอนในแบบที่ผู้วิ่งไม่เพียงแต่จะต้องมีทักษะการวิ่งที่ดีเท่านั้น แต่ยังจะต้องมีทักษะทางด้านกีฬาอื่นๆร่วมด้วย เพราะการวิ่งในรูปแบบไตรกีฬานั้น หมายถึงการผสมผสานกีฬาต่างๆทั้ง 3 อย่างเข้าด้วยกันไม่ว่าจะเป็น การวิ่งมาราธอน การว่ายน้ำ และการปั่นจักรยาน ซึ่งการเข้าร่วมแข่งขันวิ่งในรูปแบบนี้ จำเป็นจะต้องใช้ทักษะรอบด้าน และความแข็งแรงของร่างกายเป็นอย่างมากเลยทีเดียว