การวิ่งในผู้สูงอายุทำอย่างไรให้เหมาะสม
การวิ่งในผู้สูงอายุทำอย่างไรให้เหมาะสม
เมื่อคนเราผ่านกาลเวลามาหลายสิบปี สุขภาพร่างกายก็จะเสื่อมโทรมไปตามกาลเวลา ดังนั้นจึงควรมีการออกกำลังกาย ดูแลสุขภาพเอาไว้ การวิ่งในผู้สูงอายุสามารถทำได้โดยเฉพาะผู้สูงอายุวัยเกษียณ การออกมาวิ่งตามสวนสาธารณะนอกจากเพื่อออกกำลังแล้วยังได้พบปะพูดคุยกับผู้คนได้ด้วย ทำให้สุขภาพจิตดีตามร่างกาย
การวิ่งในผู้สูงอายุ ทำอย่างไรให้ปลอดภัย
หาแรงจูงใจให้ฮึกสู้
เชื่อว่าหลายคนคงกังวลเกี่ยวกับการวิ่งออกกำลังของผู้สูงอายุ เพราะกลัวร่างกายจะรับไม่ไหวและไม่กล้าที่จะออกวิ่ง เราอยากแนะนำให้คุณเริ่มจากการหาแรงบันดาลใจซะก่อน อย่างเช่นนักวิ่งดังๆ หลายคนก็เริ่มมาหัดวิ่งตอนวัยสูงอายุแล้วก็มี ดังนั้นไม่ต้องกังวลเลยว่าคุณจะทำไม่ได้ หรือความต้องการที่จะอยู่ดูลูกหลานเติบโตไปนานๆ ก็เป็นอีกแรงใจที่คุณปู่คุณย่าอยากดูแลตนเอง
เริ่มวิ่งช้าๆ ไต่ระดับให้ร่างกายชิน
แน่นอนว่าวัยสูงอายุร่างกายย่อมไม่แข็งแรงเท่าวัยหนุ่มสาว จะไปวิ่งเอาเป็นเอาตายแบบหนุ่มๆ เขาก็ไม่ได้ ดังนั้นการวิ่งในผู้สูงอายุให้เริ่มจากวิ่งช้าๆ ในระยะทางสั้นๆ ไปก่อน ให้ร่างกายปรับตัวพร้อมจะใช้แรง อาจะเริ่มด้วยการเดินเร็วไปจนถึงวิ่งเหยาะๆ ก็ได้เช่นกัน ที่สำคัญคือต้องยืดเหยียดร่างกาย วอร์อัพให้พร้อมต่อการออกกำลังซะก่อนและห้ามฝืนโดยเด็ดขาด
จูงลูกจูงหลานไปวิ่งด้วยสักคน
บางครั้งการเริ่มต้นทำอะไรครั้งแรกก็สร้างความกังวลให้คนเราได้เสมอไม่ว่าจะอายุเท่าไรก็ตาม ดังนั้นให้ชวนลูกหลานไปวิ่งเป็นเพื่อนสักคนจะได้ไม่เหงา ขณะเดียวกันหากคุณพ่อคุณแม่หรือญาติผู้ใหญ่ของเราเอ่ยอยากออกไปวิ่ง หากไม่เหลือบ่ากว่าแรงก็ไปเป็นเพื่อนท่านสักหน่อย เพราะหากว่าท่านเกิดล้ม เป็นลม โรคประจำตัวกำเริบ หรือเกิดเหตุฉุกเฉินใดๆ ขึ้น จะได้ช่วยเหลือได้ทันท่วงที อีกทั้งยังช่วยกระชับความสัมพันธ์ของคนต่างวัยได้ด้วยนะ
อย่าฝืน ให้ร่างกายได้พักบ้าง
การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าทำมากไปก็อาจส่งผลเสียได้ ดังนั้นใน 1 สัปดาห์ผู้สูงอายุควรออกกำลังกาย 3 – 4 วันก็เพียงพอแล้ว เว้นระยะให้ร่างกายได้พักฟื้นบ้าง จะได้ไม่เป็นการหักโหมจนเกินไป เพราะหากพลาดขึ้นมาย่อมใช้เวลารักษานานกว่าตอนเป็นหนุ่มเป็นสาวแน่ๆ
พบหมอบ้าง ปรึกษาปัญหาสุขภาพเป็นประจำ
การวิ่งในผู้สูงอายุนั้นสามารถทำได้ แต่ก็ควรปรึกษาคุณหมอซะก่อน เพราะในผู้สูงอายุบางรายอาจต้องได้รับการดูแลจากคุณหมออย่างใกล้ชิด และถึงแม้ว่าจะได้รับอนุญาตจากคุณหมอแล้ว ก็ควรอัปเดตอาการเรื่อยๆ ให้คุณหมอได้ตรวจเช็กสภาพร่างกายเป็นประจำ ป้องกันเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้นทุกเมื่อนั่นเอง
