การออกกำลังที่ลงทุนน้อยที่สุดคือการวิ่ง ? จริงเหรอ

การออกกำลังที่ลงทุนน้อยที่สุดคือการวิ่ง ? จริงเหรอ

ทุกวันนี้การออกกำลังกายนั้นมีให้เลือกมากมายหลายรูปแบบ แล้วแต่ความชอบและความถนัดของแต่ละคน ซึ่งเดียวนี้การออกกำลังกายต้องใช้ต้นทุนด้านกำลังทรัพย์ พอสมควรพอต้องซื้ออุปกรณ์นู่นนี่นั่นไปหมด ยกตัวอย่างเช่นถ้าจะเข้าฟิตเนส ก็ต้องเสียค่าสมาชิกรายเดือน

หลาย ๆ คนจึงเลือกออกกำลังกายโดยใช้การวิ่ง ซึ่งเป็นการออกกำลังกายที่แทบไม่ต้องลงทุนอะไรเลย มีเพียงแค่รองเท้าผ้าใบก็ออกไปเดิน ๆ วิ่ง ๆ ได้แล้ว สถานที่ก็ตามถนนในหมู่บ้าน หรืออาจจะสวนสาธารณะ สนามกีฬา หรือสนามในโรงเรียนก็ได้หมด

แต่เมื่อเวลาผ่านไป พอได้มีโอกาสไปลงงานวิ่งต่าง ๆ ก็เริ่มอยากได้นู่น ได้นี่ทีละอย่าง ๆ เริ่มต้นเลยคือรองเท้า เพราะถือว่าเป็นอุปกรณ์อย่างแรกที่นักวิ่งต้องมี จึงเริ่มหาข้อมูลว่ารองเท้าแบบไหนใส่วิ่งแล้วนุ่มสบาย ใส่แล้วเวลาวิ่งแล้วจะเด้ง ทำให้วิ่งเร็วขึ้น ซึ่งก็มีเลือกมากมายหลายยี่ห้อ ราคาก็ประมาณ 2000 บาทขึ้นไป

วิ่งไปเรื่อย ๆ มันเหงา มีเพลงฟังขณะวิ่งคงจะดี หูฟังต้องมีอีกแล้ว ก็มีให้เลือกมากมายหลายรุ่นหลายยี่ห้อให้เลือกใช้ ราคาตั้งแต่หลัก ร้อย ถึงหลัก พัน

ใช้แอปในมือถือจับเวลาและระยะทาง ไม่ค่อยสะดวก และไม่ค่อยจะตรงกับความจริง มีนาฬิกา คงจะดี ตอนวิ่งไม่เกะกะ แค่หันข้อมือมาดูก็เห็นแล้ว แถมยังจับชีพจรว่าวิ่งโซนไหนได้อีกด้วย ของมันจึงต้องมี นาฬิกาสำหรับออกกำลังกายนั้นก็มีหลายยี่ห้อให้เลือก ราคามีตั้งแต่หลักพัน จนถึงหลักหมื่น กันเลย

ใช้กระเป๋าคาดเอวรู้สึกว่าไม่สะดวก ถึงแม้จะมีช่องใส่ขวดน้ำก็ยังรู้สึกเกะกะ มีเป้น้ำ คงจะวิ่งคล่องตัวขึ้นอีกเยอะ ราคาสำหรับเป้น้ำนั้น ก็หลักร้อยจนถึงหลักหลายพัน

ยังมีของกระจุกกระจิกอีกหลายอย่าง เช่นวิ่งเช้ามืด หรือค่ำ ๆ ก็ต้องมีไฟฉาย ๆ ไฟกะพริบ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ แดดร้อนก็ต้องมีหมวก เหงื่อไหลเข้าตาก็ต้องมีผ้าบัฟ วิ่งไปรู้สึกบาดเจ็บหัวเข่าก็ต้องมี ที่รัด นี่ยังไม่รวมชุดวิ่งต่าง ๆ อีก ถุงเท้ารัดน่องอีกเยอะแยะไปหมด

แต่มันคือสิ่งที่คุ้มค่าที่จะเสียเงิน ดีกว่าเราเอาเงินไปเสียกับสิ่งที่ไร้สาระ และที่สำคัญมันคือการแลกกับสุขภาพที่ดี ลองคิดกันดูว่าเราเสียเงินกับอุปกรณ์วิ่งแค่นี้ กับการที่เราต้องป่วยแล้วเข้าโรงพยาบาลเสียเงินไม่พอ ต้องเสียเวลาอีก เลือกเอาว่าจะเลือกแบบไหนกันดี

#การออกกำลังที่ลงทุนน้อยที่สุดคือการวิ่ง ? จริงเหรอ