กันยายน 21, 2023

สาระเรื่องวิ่ง

ข่าววิ่ง ความรู้เรื่องวิ่ง เคล็ดลับเรื่องวิ่ง งานวิ่งที่น่าสนใจ

จังหวะของเสียงเพลงช่วยให้เราวิ่งได้เร็วขึ้น

1 min read
จังหวะของเสียงเพลงช่วยให้เราวิ่งได้เร็วขึ้น Janet Hamilton ที่เป็นผู้ก่อตั้ง Running Strong Professional Coaching กล่าวไว้ว่าร่างกาย

จังหวะของเสียงเพลงช่วยให้เราวิ่งได้เร็วขึ้น

Janet Hamilton ที่เป็นผู้ก่อตั้ง Running Strong Professional Coaching กล่าวไว้ว่าร่างกายของคนเราสามารถใช้ จังหวะการเตันของหัวใจ (BPM) ใสอดคล้องกับจังหวะของเสียงดนตรีได้ โดยส่งผลไปยังสมองให้เร่งฝีเท้าในการวิ่ง ดังนั้นเสียงเพลงจึงเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ให้นักวิ่งพัฒนาความเร็วเพิ่มขึ้นทีละนิด

แต่ก็ยังมีการศึกษาที่พบว่าหากเราเปลี่ยนจังหวะของเสียงดนตรีฝืนธรรมชาติการวิ่งของเราเกิน 5 % ร่างกายก็จะถูกบีบคั้นด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้น ทำให้รู้สึกเหนื่อย และใช้ความพยายามมากขึ้น ซึ่งไม่ใช่ผลดี ดังนั้นหากจะเปลี่ยนจังหวะดนตรีควรจะค่อย ๆ เพิ่มทีละนิดเพื่อให้ร่างกายได้มีการปรับตัว

จังหวะของเสียงเพลงช่วยให้เราวิ่งได้เร็วขึ้น

แต่การใช้จังหวะเพลงเพื่อเพิ่มความเร็วก็ได้ใช้ได้กับการวิ่งทุกรูปแบบ โดยมีงานวิจัยพบว่าการวิ่งไปตามจังหวะดนตรีใช้ได้กับการวิ่งที่ไม่หนักความเร็วอยู่ในระดับต่ำหรือปานกลางเท่านั้น หากวิ่งด้วยความเข้มข้นสูงในระดับ 75 % ขึ้นไป จังหวะเพลงจะไม่ส่งผลในปเรื่องประสิทธิภาพทางด้านการรับรู้ของการออกแรง เพราะสอมงเรารับรู้แต่ความเหนื่อย ทำให้ไม่สามารถประมวลผลของจังหวะดนตรีได้

ดังนั้นการเลือกเพลงฟังควรจะต้องเหมาะสมกับระดับของการวิ่ง เพื่อให้การวิ่งมีความสนุกสนานพร้อม ๆ กับการพัฒนา เพราะแต่ละเพลงนั้นมีจังหวะที่แตกต่างกันออกไป หากต้องการเพิ่มฝีเท้าก็ต้องมีเสียงที่ดี และจังหวะที่เร็ว หากจะวิ่งสบาย ๆ ก็อาจจะเป็นเพลงช้า ๆ ที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย โดยระดับเพลงที่เหมาะกับการวิ่งแบบต่าง ๆ ก็จะวัดระดับจาก BMB  เพลง ซึ่งแบ่งได้ดังนี้

120-150 BPM เสำหรับการวิ่งจ๊อกกิ้งเบา ๆ ชมนกชมไม้

140 – 145 BPM  สำหรับการผู้ที่ต้องหารฝึกซ้อมวิ่งเพื่อพัฒนาความเร็ว

150 – 180 BPM  สำหรับนักวิ่งมีจุดประสงค์เพื่อต้องการวิ่งได้เร็ว นานอย่างต่อเนื่อง อึดขึ้น

แต่ก่อนที่เราจะเลือกระดับ BPM ใช้ฟังระหว่างวิ่ง เราก็ต้องค่าBPM ให้เหมาะสมกับตัวเองเสียก่อน ซึ่งวิธีหานั้นก็ทำได้ง่าย ๆ บนลู่วิ่ง (threadmill)  และคู่หูเพื่อมานับจำนวนก้าวให้เรา (ถ้าไม่มีใช้การบันทึกวิดีโอก็ได้)

 เริ่มต้นให้เราวิ่งในความเร็วสบาย ๆ แบบ Easy pace ใช้นาฬิกาจับเวลาไว้ที่ 60 วินาที ให้คู่หูของเรานับจำนวนขาขวาที่ลงพื้นว่า ใน 60 วินาที แตะพื้นไปกี่ครั้ง แล้วนำจำนวนที่นับได้มาคูณด้วย 2 จึงออกมาเป็นรอบขา หรืออัตราการก้าวขาทั้งหมด (cadence) ในการวิ่งระดับปกติ หากค่าออกมาได้ 120 เท่ากับว่าเราต้องเลือกเพลงฟังตอนวิ่งสบาย ๆ ที่ 120 -150 BMP นั่นเอง แล้วหากอยากเพิ่มความเร็วก็สามารถเพิ่มจังหวะดนตรีได้ทีละนิด เพื่อให้ร่างกายค่อย ๆ ปรับตัว


ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *