วิ่งฮาล์ฟได้ดี ไปมาราธอนสบาย
1 min readวิ่งฮาล์ฟได้ดี ไปมาราธอนสบาย
การวิ่งฮาล์ฟมาราธอน เรียกได้ว่าเป็นระยะที่สนุกไม่หนักไป ไม่เบามากไป สำหรับเคยที่ผ่านระดับ มินิมาราธอน มามากพอสมควร จนรู้สึกว่าเป็นเรื่องง่าย ๆ และหาก วิ่งฮาล์ฟ ได้ดี การจะไป ฟูลมาราธอน ก็เป็นเรื่องสบาย ๆ ดังนั้นการซ้อมระยะฮาล์ฟเป็นประจำจึงมีประโยชน์มาก
การซ้อมฮาล์ฟใช้เวลาไม่นานเท่าซ้อมไป ฟูลมาราธอน
การวิ่งมาราธอนวันวิ่งยาว (Long Run) จะต้องมีถึง 30-35 กม. ไหนจะระยะสะสมประจำสัปดาห์อีก ต้องมีความสม่ำเสมอ เพื่อให้กล้ามเนื้อและหัวใจพร้อมที่สุดทนที่สุด แต่การวิ่งฮาล์ฟนั้น ไม่จำเป็นต้องวิ่งถึงระดับ 30 กม. แค่วิ่งยาว 15-18 กม./สัปดาห์ ก็เพียงพอแล้ว เรียกว่าเบากว่าเยอะ
วิ่งฮาล์ฟได้ดี ไปมาราธอนสบาย
ฮาล์ฟมาราธอน ไม่ได้ทำให้พลังงานหมดเกลี้ยง
ใครที่เคยผ่านการ วิ่งมาราธอน มาแล้วคงรู้ว่าเมื่อถึงเส้นชัย พลังงานแทบไม่เหลือ ยิ่งหากใครซ้อมไม่ดีนี่ก็แทบจะคลานเลยทีเดียว แต่สำหรับ การวิ่งฮาล์ฟ นั้น เมื่อถึงเส้นชัยยังรู้สึกสบาย ๆ ชิล ๆ มีแรงเดินไปถ่ายรูปเฮฮากับเพื่อนได้ เพราะถึงแม้มันจะไม่ใช่ระยะทางที่เบา แต่มันก็ไม่ได้หนักมากเหมือนมาราธอน
ฟื้นฟูร่างกายไม่นาน
หากนักวิ่งที่วิ่งในระยะ 15 กม. ได้สบาย ๆ หากไป วิ่งฮาล์ฟ ก็แทบจะไม่ส่งผลอะไรกับร่างกายเลย การฟื้นฟูร่างกาย หรือ Recovery อย่างมากไม่เกิน 3 วัน แต่สำหรับคนที่วิ่งจบฟูลมาราธอน ต้องใช้เวลามากกว่านี้อย่างแน่นอน บางคนอาจกินเวลาไปเป็นสัปดาห์เลยทีเดียว
ไม่ต้องห่วงเรื่องปีศาจที่ กม. 35
แต่หากใครที่ไม่มีการเตรียมความพร้อม และรู้จักร่างกายของตัวเองก้อาจจะเจอปีศาจได้เหมือนกัน เช่นหากวิ่งผ่านไปสัก 15 กม. แรงเริ่มตก ไปต่อแทบไม่ไหว เพราะไม่เติมพลังงาน อย่าง เจล หรือเกลือแร่ หรือไม่ยอมดื่มน้ำ ทานอาหารก่อนแข่ง ก็อาจจะแย่ได้ นอกเสียจากว่าเป็นนักวิ่งที่ลงฮาล์ฟจนแล้ว
วิ่งฮาล์ฟฯ กับวิ่งมาราธอน คนละเพซ
ระยะฮาล์ฟมาราธอน เป็นเรื่องง่ายสำหรับการกำหนดความ ควบคุมความเร็ว กว่าการวิ่งมาราธอน
อย่างเช่นเราจะวิ่งฮาล์ฟที่เพซ 7 ซึ่งอาจจะมีเพิ่มบ้าง ลดบ้าง ในตลอดเส้นทาง 21 กม. บางที่อาจจะหลดไปที่ 7.30 บาง บางครั้งดีด ๆ อาจมีเพซ 6 อาหาช่วง กม.19-20 แรงเหลือ ๆ ก็ยังอัดได้ ถือว่าควบคุมความเร็วได้ง่ายกว่าการวิ่งมาราธอน
การควบคุมบริหารความเร็วใน การวิ่งฮาล์ฟ หากทำได้ดี ก็ถือว่าเป็นพื้นฐานในการเตรียมตัวเลื่อนไปสู่ ระยะฟูลมาราธอน ซึ่งจะสังเกตว่าคนที่ วิ่งมาราธอน ได้ดี ส่วนใหญ่ก็จะผ่านการ วิ่งฮาล์ฟ มาจนชำนาญแล้ว ดังนั้นเริ่มต้นจบฟูลให้สวย ๆ เวลาดีขึ้นทุกครั้งที่ลงแข่ง แล้วค่อยคิดถึงการไปฟูลมาราธอนจะดีกว่า