วิ่งมาราธอนให้อะไร

วิ่งมาราธอนให้อะไร

หลาย ๆ คนที่เริ่มออกกำลังกายด้วยการวิ่งด้วยจุดประสงค์ ต่าง ๆ กันไป บางคนวิ่งเพื่อสุขภาพที่แข็งแรง บางคนวิ่งเพราะรูปร่างที่ดี บางคนวิ่ง เพราะเทรนด์มาแรง บางคนไปวิ่งเพื่อดูสาว ๆ หรือดูหนุ่ม ๆ เมื่อวิ่งไปสักพัก จนรู้สึกว่าวิ่งแล้วสนุกวิ่งไหว ก็เริ่มไปลงงานวิ่ง ต่าง ๆ สิ่งที่ได้ตามมาคือเพื่อนใหม่ สังคมใหม่ จนกลายติดการวิ่งไปที่สุด และเริ่มมีจุดมุ่งหมายขึ้นมา คืออยากวิ่งจบฟูลมาราธอนสักครั้ง อาจเป็นเพราะเห็นเพื่อนนักวิ่งด้วยกันทำได้เลยมีแรงผลักดันที่จะทำบ้าง

จากฟันรัน 5 กม. ไปมินิมาราธอน10 กม.  ไปถึง ฮาล์ฟมาราธอน 21 กม แต่การจะไปฟูลมาราธอน 42 กม. ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ใช่ว่าจะเป็นเรื่องยาก เมื่อตั้งใจแล้วก็เริ่มฝึกซ้อม อาจหาตารางซ้อมจากคนที่วิ่งผ่านมาราธอน มาก่อน การฝึกซ้อมนั้นก็ต้องมีวินัยเป็นอย่างมาก แต่หลาย ๆ คนก็พยายามกันอย่างมุ่งมั่นเต็มกำลัง จะฝนตกแดดออก ก็ต้องซ้อม ไม่สบาย ป่วย ต้องหยุดวิ่งก็วิตกว่า ความฟิตจะหาย บางทีวิ่งจนบาดเจ็บไปหาหมอ ยังขอหมอว่าฉีดยาให้หายเลยได้ไหมเพราะกลัวไม่ได้ซ้อม นั่นแหละคืออาการติดวิ่ง

เมื่อวันลงสนามมาถึง ตั้งใจจะนอนเร็ว ๆ หลับเต็ม ๆ แต่เชื่อเถอะ มาราธอนแรก น้อยคนที่จะหลับลง เพลอ ๆ ก็ได้หลับซักงีบ เมื่อเสียงสัญญาณปล่อยตัวดังขึ้น ก็เริ่มวิ่งออกตัวออกไป ผ่าน 10-20 กม.ไปจนถึง กม.30 หลาย ๆ เริ่ม หมดแรง แข้งขาปวดร้าว ทานพาวเวอร์เจล ก็ไม่ได้ทำให้ดีขึ้น จิตใจเริ่มคิดว่า เรามาทำอะไรที่นี่ จะขอ DNF ได้ไหม ภาพทุกภาพตอนที่เราซ้อมจะผุดขึ้นมาในหัว การวิ่งตากฝน การวิ่งตากแดด การต้องตื่นแต่เช้าเพื่อออกวิ่งยาว อาการบาดเจ็บจากการซ้อม สิ่งเหล่านั้น จะทำให้ขาเราเริ่มมีแรงขึ้นมาพร้อมกับความคิดที่ว่า ถ้าล้มเลิกตอนนี้ ที่พยายามมาทั้งหมดก็เท่ากับศูนย์เปล่า เมื่อคุณก้าวเข้าสู่เส้นชัย ความรู้สึกมันต่างกับการเข้าเส้นชัยครั้งแรก ในระยะอื่น ๆ เพราะนี่มันคือฟูลมาราธอน 42 กม.นั่นเอง

คุณจะรู้ว่า คำว่ามาราธอนเปลี่ยนชีวิต มันคือความจริง เพราะมันจะทำให้คุณอดทนต่อ อุปสรรค ต่าง ๆ ได้อย่างใจเย็น มีความแน่วแน่ต่อจุดหมายที่ตั้งใจเอาไว้ และจะรู้สึกภูมิใจทุกครั้งที่ทำอะไรสำเร็จด้วยตัวเองถึงแม้ว่ามันจะเป็นแค่เพียงเรื่องเล็ก ๆ ก็ตาม คุณจะเป็นคนที่มองบวกขึ้น ที่สำคัญคุณจะเป็นคนที่มีวินัยในการใช้ชีวิตมากขึ้น

วิ่งมาราธอนให้อะไร

#วิ่งมาราธอนให้อะไร