How To วิ่งอย่างไรให้สุขภาพดี 

How To วิ่งอย่างไรให้สุขภาพดี 

ใครที่คิดจะออกไปวิ่งและเปิดเข้ามาเจอบทความนี้มาถูกทางแล้วค่ะ!!! วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการวิ่งที่ถูกต้องว่าควรจะเตรียมพร้อมอะไรบ้าง มีรองเท้าคู่เดียวจะเพียงพอไหมกับการออกไปวิ่งเพื่อสุขภาพ? ควรใช้เวลาในการวิ่งกี่นาทีจึงจะมีประสิทธิภาพและร่างกายได้รับการเผาผลาญ? หรือเราควรวิ่งทุกวันเลยไหม? วิ่งอย่างไรจึงจะได้สุขภาพดีวันนี้เรามีคำตอบ ไปดูกันเลยค่ะ!!!

1.การ warm upเป็นสิ่งสำคัญ
หลายๆคนมองข้ามการ warm up หรือการบริหารร่างกายก่อนลงสนาม ซึ่งเป็นสิ่งที่ผิด เนื่องจากการอบอุ่นร่างกายก่อนวิ่งนั้นจะช่วยเป็นการกระตุ้นให้กล้ามเนื้อปรับตัวโดยจะส่งผลให้หลอดเลือดเกิดการขยายทำให้ออกซิเจนสามารถไหลเวียนเข้าสู่หลอดเลือดได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยลดโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดการบาดเจ็บได้อีกด้วย รวมถึงช่วยในเรื่องอัตราการเต้นของหัวใจให้พร้อมสำหรับการวิ่งออกกำลังกาย

2.ควรเลือกรองเท้าที่เหมาะกับการวิ่ง
ใครหลายคนคงคิดว่าแค่มีรองเท้าผ้าใบคู่ใจหนึ่งคู่ก็ออกไปวิ่งได้แล้ว เป็นความคิดที่ไม่ได้ผิดไปเสียทั้งหมดค่ะ แต่การมีรองเท้าผ้าใบดีๆสักคู่ที่เหมาะกับการวิ่งจะเป็นสิ่งที่ดีกว่าแน่นอนเพราะจะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดการบาดเจ็บขณะวิ่งได้ รองเท้าวิ่งที่ดีไม่จำเป็นต้องมีราคาสูง เพียงแต่คุณต้องเลือกให้เหมาะสมกับฝ่าเท้าของคุณ เป็นขนาดที่พอดีไม่คับหรือหลวมจนเกินไป มีน้ำหนักเบา สามารถรับการกระแทกได้ดีเพราะการวิ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่ต้องใช้แรงกระแทก หากรองเท้ารับน้ำหนักได้ไม่ดีอาจส่งผลต่อข้อเข่า ทำให้สุขภาพเข่าเสื่อมได้

3.ความเร็วที่เหมาะสมในการวิ่ง
สำหรับนักวิ่งมือใหม่หลายคนอาจเข้าใจว่าจะต้องวิ่งให้เร็ว เร็วเท่าไหร่ได้ยิ่งดี แต่มีผลการวัจัยออกมาว่าการวิ่งที่มีความเร็วในระดับไม่เร็วและไม่ช้าจนเกินไปจะได้ประสิทธิภาพที่ดีกว่า แต่คุณจะต้องวิ่งด้วยความเร็วในระดับที่ต่อเนื่องกัน เพราะ ระบบหัวใจและปอดจะทำหน้าที่ผลิตและลำเลียงออกซิเจนเพิ่มขึ้นในขณะที่คุณวิ่ง ทำให้ไขมันเกิดการแตกตัวและเกิดการเผาผลาญพลังงานหรือไขมันสะสมต่างๆที่อยู่ทั่วร่างกาย ซึ่งเวลาเฉลี่ยที่ร่างกายจะดูดพลังงานจากไขมันมาใช้อยู่ที่ 30-45นาที การวิ่งจึงจะมีประสิทธิภาพ

4.ไม่จำเป็นต้องวิ่งทุกวัน
การวิ่งเพื่อสุขภาพไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องหักโหมหรือจริงจังกับมันขนาดที่ต้องวิ่งทุกวัน เพราะ การวิ่งส่งผลให้ร่างกายเกิดความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า หรืออ่อนเพลีย การที่เราได้หยุดให้ร่างกายได้พักผ่อนบ้างจะเป็นการช่วยฟื้นฟูร่างกายให้เกิดการปรับตัว โดยคุณอาจจะวิ่งอาทิตย์ละ 3 ครั้ง และเพิ่มระยะทางไปเรื่อยๆ เริ่มแรกอาจจะวิ่งในระยะทาง3-5 กิโลก่อน

# ออกกำลังกาย